วิตามินอี
ในปัจจุบันได้ทีการนำวิตามินอี มารับประทานหรือใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางหลายชนิด เนื่องจากวิตามินอี เป็นสารมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น (Antioxidation) จึงช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำให้เซลล์ต่างๆทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคเรื้อรังต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณและชะลอความชราอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงได้มีการศึกษาถึงประโยชน์ต่างๆของวิตามินอี กันอย่างกว้างขวาง จาการศึกษาพบว่าหากวิตามินอี ในเลือดต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคหัวใจขาดเลือด (Ischemicheart disease) หรือเพิ่มปริมาณความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และในทางกลับกันหากในเลือดมีปริมาณวิตามินอีสูง จะมีความเสี่ยงต่ำต่อการเป็นโรคมะเร็ง
วิตามินอี คืออะไร
วิตามินอี เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำหน้าที่ต้านออกซิเดชั่นที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเป็นปกิกิริยาทางธรรมชาติ ที่เกิขึ้นเนื่องจากเซลล์ต่างๆในร่างกายมีการใช้ในขบวนการเมตะบอลิสม์ เพื่อให้ได้สารต่างๆที่เซลล์นำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต แต่นอกจากนั้นจะได้สารที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ หรือ Free radicals เกิดขึ้นด้วย อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นนี้ไม่เป็นผลดีกับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย โดยจะขัดขวางการทำงานของเซลล์ ทำให้การตอบสนองต่อฮอร์โมนต่างๆ ลดลง ทำลายโครงสร้างและหน้าที่ของผนังเซลล์ ทำให้เกิดการกลายพันธ์ของเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ขึ้นได้
ร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างวิตามินอีได้ ต้องได้รับจากภายนอก คืออาหารที่รับประทานและการให้เสริม เช่น วิตามินอีในรูปของยาเม็ดหรือชนิดทา วิตามินอี เป็นคำสามัญทั่วไป ซึ่งรวมถึงสารอื่นๆที่แสดงฤทธิ์ทางชีวะวิทยาเหมือนวิตามินอี ที่ได้รับจากธรรมชาติ มีชื่อทางเคมีว่า d-alpha-tocopherol ในธรรมชาติมีสาร 8 ชนิดที่มีฤทธิ์เหมือนวิตามินอี คือ
1. d-alpha-tocopherol
2. d-beta-tocopherol
3. d-gamma-tocopherol
4. d-delta-tocopherol
5. d-alpha-tocotrienol
6. d-beta-tocotrienol
7. d-gamma-tocotrienol
8. d-delta-tocotrienol
แต่เนื่องจากวิตามินอี หรือ alpha-tocopherol เป็นสารไม่คงตัวและจะสูญเสียสภาพเมื่อสัมผัสกับอากาศ ความร้อนและแสงแดดดังนั้นจึงต้องใช้อนุพันธ์ของวิตามินอี คือ อนุพันธ์ acetate และ succinate ของวิตามินอี แทนซึ่งมีความคงตัวมากกว่า
รูปแบบของวิตามินอีที่ใช้เป็นวิตามินอีเสริม
วิตามินที่ได้จากธรรมชาติจะมีชื่อเริ่มต้นว่า d- ส่วนวิตามินอีที่สังเคราะห์มีชื่อเริ่มต้นว่า dl- ดังในตาราง
ชื่อทางเคมี |
ชื่อทั่วไป |
d-alpha-tocopherol d-alpha-tocopherol acetate d-alpha-tocopherol acid succinate d-alpha ,d-beta ,d-gamma ,d-delta-tocopherol |
Natural vitamin e Natural vitamin acetate Natural vitamin e acid succinate Natural moxed tocopherol |
dl-alpha-tocopherol dl-alpha-tocopherol acetate dl-alpha-tocopherol acid succinate |
Synthetic vitamin e Synthetic vitamin e acetate Synthetic vitamin e acid succinate |
วิตามินอี ที่ได้จากธรรมชาติและวิตามินอี ทีได้จากากสังเคราะห์แตกต่างกัน จากการวิจัยพบว่า วิตามินอี ที่ได้จากการธรรมชาติมีประสิทธิภาพสูงกว่า ที่ได้จากการสังเคราะห์ประมาณ 36% เนื่องจากวิตามินอี ที่ได้จากธรรมชาติจะคั่งค้างอยู่ตามเนื้อเยื่อได้นานกว่าวิตามินอีที่ได้จากการสังเคราะห์
ประโยชน์ของวิตามินอี
1.ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายให้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
2.ยับยั้งการทำลายหรือการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆอันเนื่องมาจากการเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากขบวนการเมตาบอลิสม์ ในร่างกายและจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม เช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ โลหะหนักต่างๆ สารพวกไฮโดรคาร์บอน ควันบุหรี่ เป็นต้น
3.ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด (Arterosclerosis) โรคหัวใจ โรคต้อกระจก โรคข้ออักเสบ (arthritis) ฯลฯ
4.ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ตามปกติ
5.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
วิตามินอีในอาหาร
วิตามินอีอยู่มในอาหารตามธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมันพืชต่างๆ ผลไม้เปลือกแข็ง เมล็ดพืช ฯลฯ คณะกรรมการอาหารและโภชนาของสถาบันวิจัยแห่งชาติสหรัฐเมริกาได้กำหนดว่า
ผู้ชายควรได้รับวิตามินอี 15 IU ต่อวัน
ผู้หญิงควรได้รับวิตามินอี 12 IU ต่อวัน
International Unit ,IU เป็นหน่วยวัดความแรงของวิตามิน
1.49 IU ของวิตามินอี เท่ากับ 1 มิลลิกรัม d-alpha-tocopherol
ตารางแสดงปริมาณวิตามินอี จากอาหารบางประเภท
จากอาหาร 100 กรัม |
IU. ของวิตามิน |
· น้ำมันและไขมัน น้ำมันจากวีตเจิร์ม น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วลิสง มาร์การีนชนิดไม่แข็ง มายองเนส เนย |
177.97 |
· ธัญพืชและผลิตภัณฑ์ วีตเจิร์ม ผ่านกรรมวิธี ข้าวโอ๊ต ผ่านกรรมวิธี ข้าวซ้อมมือสุก ขนมปัง โฮลวีต ขนมปัง ขาว ข้าวเจ้า สุก |
17.36 |
· ผลไม้เปลือกแข็ง เม็ดในรับประทานได้ เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ถั่วลิสง คั่วแห้ง Peanut butter เม็ดมะม่วงหิมพานต์ |
73.76 |
· เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ตับ ย่าง กุ้ง แช่แข็ง ผ่านการอบ ไก่ทอด ไข่ เบคอน Haddock ไก่ ส่วนอก ย่าง สเต็ก ย่าง น้ำนมธรรมดา |
0.94 |
· ผลไม้ แอปเปิ้ล ผลสด กล้วย ผลสด แคนตาลูป สตอเบอร์รี่ ผลสด |
0.46 |
· ผัก หน่อไม่ฝรั่ง สด ผักโขม สด ถั่วเม็ดกลม สด บรอคโคลี สด มันฝรั่ง เผา |
2.68 |